นายแพทย์สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ หมอนักบริหาร ซีอีโอ ที่มีใจรักการออกกำลังกายแบบจริงจัง ขณะที่ชีวิตการงานกุมชัยชนะ จากการสร้าง รัตตินันท์ เป็นที่หนึ่งในสายบอดี้ เซอร์เจอรี ขณะเดียวกันยังกุมชัยชนะจิตใจและร่างกายตัวเองด้วยเป้าหมายสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน
นายแพทย์สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ ปัจจุบันเป็น CEO และ Founder ของ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ (Rattinan Medical Center) กุมทัพบริหารนับตั้งแต่แบรนด์รัตตินันท์ถือกำเนิดขึ้นในปี 1999 วงจรธุรกิจจากเอสเอ็มอี สู่ Specialty ของอุตสาหกรรมด้านความงามขนาดกลาง พร้อมจับมือกับ บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช เพื่อเร่งเครื่อง สยายปีก ให้ก้าวไปได้ไวขึ้น
“เหลือเชื่อมากกว่าธุรกิจของเราเดินทางมา 25 ปีแล้ว รัตตินันท์เริ่มต้นจากคุณหมอรัตตินันท์ ภรรยาของผมในช่วง 10 กว่าปีแรก และผมเข้ามามีส่วนร่วมในช่วง 10 ปีหลัง ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้บริหารในหลายๆ องค์กร เคยเป็นผู้อำนวยการที่โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง เป็นผู้อำนวยการบริษัทยา บริษัททำวิจัย บริษัทเกี่ยวกับสเต็มเซลล์ในต่างประเทศ ก่อนออกมาช่วยรัตตินันท์ ซึ่งตอนนั้นแบรนด์ยังอยู่ในขนาด SMEs พนักงาน 5-6 คน จากประสบการณ์งานหลายแห่งและหลายตำแหน่งหน้าที่ ข้อดีคือ ตัวเองได้เห็นภาพของธุรกิจที่เกี่ยวข้องครบ และมั่นใจว่าสามารถทำองค์กรของเราให้เราเติบโตได้”
ความยั่งยืนเรื่องจริยธรรม
แบรนด์ ‘รัตตินันท์’ สามารถกล่าวอย่างภาคภูมิว่า ทำดี ทำได้ ทำถึง ในการดูแลรูปร่างผู้คนทุกมิติ เพราะคำนึงถึงความเป็นไปได้ของแต่ละเคสมาพร้อมความปลอดภัยอันดับหนึ่ง และจะพิจารณาทำมากน้อยแค่ไหน ไม่ได้ขึ้นกับรายได้ของแบรนด์ หากแต่เป็นแค่ไหนเพียงพอ เหมาะสม
“ในโลกการทำธุรกิจ จริงๆ ไม่ได้ง่ายเท่าไหร่ แต่ในความยากก็มีความง่ายปะปนกัน ส่วนหนึ่งเราเข้าใจในสิ่งที่เรียกว่า Medical Marketing หรือ Medical Management ลึกกว่าคนอื่น เราจะมองเห็นโอกาสได้ชัดเจนกว่า เห็นสิ่งที่ควรปรับปรุง และเราไม่ได้ละโมบโลภมากเกินไป ไม่ผลักธุรกิจให้ก้าวไปโดยผิดจากตัวตนที่เราเป็นอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องจริยธรรม
“จริยธรรมการเป็นแพทย์ บวกกับตัวเราเองก็เป็นผู้บริโภคด้วยเช่นกัน เราทำใจไม่ได้ที่ต้องลดต้นทุนจนกระทั่งคุณภาพขาดหายไป เรารู้สึกถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการสวมหมวกใบนี้ ข้อเสียคือ อาจทำให้ไม่โฟกัส หรือก้าวไปได้ช้า ขณะที่เราเองมีเรื่องที่ต้องทำมากมาย จึงต้องระมัดระวังมากว่าวันนี้เราสวมหมวกอะไร บางครั้งอาจต้องถอยมามอง เพื่อจะได้เห็นภาพกว้าง
“แม้กำไรเป็นสิ่งที่องค์กรต้องการ แต่กำไรไม่ใช่เป้าหมายเดียวของเรา เราอยากทำธุรกิจที่มีประโยชน์ต่อสังคม ได้ความเชื่อมั่นในความจริงใจ มีน้ำใจต่อทั้งลูกค้าและพนักงาน”
ความยั่งยืนของการบริหารจัดการ
ด้วยความมั่นใจและใกล้ชิดกันดีระหว่างผู้บริหาร รัตตินันท์ และ รพ.มาสเตอร์พีช นำมาสู่การ M&P ความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อผนึกความแข็งแกร่ง “ผมรู้จักหมอเส (นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล Group CEO MASTER) มาหลายปี สิ่งที่ MASTER มี คือสิ่งที่รัตตินันท์ไม่มี โดยเฉพาะเรื่องแนวคิดในการทำงาน ทำให้เราก้าวเดินได้เร็วขึ้น ย่อระยะการเรียนรู้ให้สั้นลง ทำให้แบรนด์รัตตินันท์ได้ใช้เวลาในสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น แทนที่จะสะเปะสะปะ ลองผิดลองถูก ซึ่งตรงนั้นเป็นจุดตายของ SMEs ส่วนใหญ่อันนี้ถือเป็นโอกาสของเราที่เข้ามาร่วมมือกัน” หมอหนึ่งขยายความถึงความร่วมกับมืออาชีพอย่าง MASTER แล้วดีอย่างไร
รัตตินันต์ เป็นคลินิกที่ชำนาญการเรื่องการลดน้ำหนัก การตัดกระเพาะอาหาร และการดูดไขมัน สิ่งเหล่านี้มีแรงปรารถนาและประสบการณ์ตรงของหมอหนึ่งขับเคลื่อนอยู่ ผสานกับความยั่งยืนในการทำให้การลดน้ำหนักเป็นธรรมชาติ และมาจากมิติของการกิน การออกกำลังกาย ร่วมไปกับหัตถการข้างต้น ทำให้ผู้รับบริการพบกับผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
“สมัยหนึ่งผมอ้วนมาก ตอนที่ลูกยังเล็กๆ เรากินอาหารของเราเสร็จ แล้วก็ไล่เก็บกินของลูกด้วย จนอ้วนขึ้น แล้วผมก็ลดน้ำหนัก ซึ่งงานของรัตตินันท์มุ่งไปทางนี้ จนชำนาญการมาตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อนที่ยังไม่มีใครรู้จักว่าตัดกระเพาะอาหารคืออะไร ดูดไขมันคืออะไร ลูกค้าของเราเกือบ 100% เป็นชาวต่างชาติ โดยทั้งหมดนี้คืองาน Art of Body Surgeries ผมมองแบรนด์รัตตินันท์เป็น King of Body Surgeries” หมอหนึ่งสรุป
หัตถการเรือธงที่รัตตินันท์โฟกัสคือ 4 B – Bariatric, Breast, Body Contouring และ Buttocks ทั้งหมดล้วนเป็น Body Surgeries ที่เป็นความชำนาญการของเรา 1 Bariatric Surgery – การลดขนาดกระเพาะ มีทั้งเย็บบางส่วน หรือตัดบางส่วน ใส่บอลลูนเข้าไป หรือมีตัดลำไส้ด้วย ในกลุ่มที่ 2 คือการทำ Breast – หัตถการทรวงอก กลุ่มที่ 3 ทำ Body Contouring ไม่ใช่แค่ดูดไขมันอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะวิทยาการทางการแพทย์สามารถจัดการใส่ไขมันเข้าไปในจุดต่างๆ มีทั้งการเหลา การเกลี่ย ตามรูปร่างที่ต้องการเพิ่มหรือลด และสุดท้าย Buttocks หรือการเสริมก้น
“ปัจจุบันเรามีลูกค้าต่างชาติประมาณ 1 ใน 3 และศูนย์ใหม่ที่กำลังจะเปิดในซอยสุขุมวิท 49 คือย่านคนต่างชาติ คาดว่าน่าจะพุ่งเป็น 50% จากเวชระเบียนย้อนหลัง ส่วนใหญ่พักอาศัย ทำงาน และมีกิจกรรมอยู่ในย่านนั้น โดยเราจะโฟกัสเรื่องที่ตัวเองชำนาญการเป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคมองหา
“ยกตัวอย่างถ้าคุณจะเปิดร้านขายชาสักร้านหนึ่ง คุณต้องหามือชงชาที่ทำชาได้อร่อย ต่อให้ร้านขายกาแฟ ก็ขายชาไม่ดีเท่า แถมขายชาแพงไม่ได้ แต่จะต้องเป็นร้านที่ขายชาโดยตรง ผมมองว่าสิ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นกับสาย Healthcare ด้วยเช่นกัน คือโรงพยาบาลที่ทำเฉพาะเรื่องหัวใจ เฉพาะกระดูก เฉพาะทางต่างๆ มีข้อดีทั้งเรื่องบริหารจัดการ และการโฟกัสได้ตรงจุด”
ความยั่งยืนของชีวิตและจิตใจ
สำหรับกิจกรรมส่วนตัวและงานอดิเรก คุณหมอหนึ่งยังให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่ส่งผลดีต่อสภาพร่างกายและจิตใจ แต่ลงลึกไปถึงระเบียบวิธีคิด และการฝึกฝนตนเองผ่านกีฬาที่รัก โดยเฉพาะการวิ่งมาราธอน
“ต้องบอกว่าเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องเดียวที่เงินซื้อไม่ได้ เศรษฐีทั่วโลกก็ตายได้ถ้าสุขภาพไม่ดี ต่อให้ไปจ้างใครมาเทรน สุดท้ายเราก็ต้องทำเอง พอเป็น CEO การจะเล่นกีฬาแบบคู่ หรือทีม ต้องรอกัน และกีฬาแบบนั้นเล่นคนเดียวไม่สนุก แต่ว่ามาราธอนคือความใฝ่ฝัน และต้องวางแผนเตรียมตัวหลายเดือนเพื่อฝึกซ้อมให้อยู่ตัว
“ปีก่อนผมไปเบอร์ลิน มาราธอน ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามสำคัญของโลกมาราธอน ตื่นเต้นมาก ใช้เวลาเดินทางไป 10 กว่าชั่วโมง และไปอยู่ที่นั่น 2-3 วัน ต้องปรับเรื่องการนอนนิดหนึ่ง แล้วยิ่งเป็น First Marathon เริ่ม 10.30 น. จบที่ 16.30 น. พลังงานนี่เกลี้ยงเลย พอถึงระยะกิโลเมตรที่ 30 ไม่เหลือแล้ว
“แผนล่าสุดเดือนตุลาคม 2024 นี้ ผมจะเข้าร่วมการวิ่งในรายการ Chicago Marathon สนามนี้ยากกว่าเดิม ตอนนี้อยู่ระหว่างการฝึกซ้อม และเตรียมตัว ต้องลดน้ำหนักอีกนิดหน่อยให้ลีนเพื่อวิ่งได้คล่องตัวขึ้น เป้าหมายคือทำเท่าที่ทำได้ มีความสุขกับการวิ่ง และมีเวลาที่ดีกว่าของเดิมนิดหนึ่ง
“การไปวิ่งสำหรับผมไม่ใช่แค่ไปวิ่ง แต่ผมกำลังส่งสัญญาณ ว่าตัวผมจะนำองค์กรนี้ได้ด้วยความ Healthy และแต่ละปี เราควรจะวิ่งสั้นลงไม่ใช่หรือ ถ้าเราแก่มากขึ้น เราควรจะวิ่งได้น้อยลงใช่ไหม แต่นี่เรากำลังทำสวนกระแสให้ดูว่า แต่ละปีใช้เวลามาราธอนสั้นลงเรื่อยๆ นอกจากเพื่อแข่งขันกับตัวเองแล้ว ก็เพื่อให้เห็นว่าจริงๆ มนุษย์เรามี Unlimited อยู่เหมือนกัน ในการทำให้ตัวเอง Improve ขึ้น จำเป็นต้องอยู่ใน Mindset แบบนี้
“สิ่งที่ตระหนักและเรียนรู้คือ ทุกอย่างต้อง Pain (เจ็บ) เอง รู้เอง คุณต้องก้าวขาออกไปเอง แม้จะมีเพื่อน หรือคนข้างๆ มาวิ่งด้วย แต่อย่างไรเสียคุณต้องรู้สึกเหนื่อยเอง เพราะเป็นเรื่องเดียวที่คุณต้องทำเอง หาซื้อไม่ได้ จะรวยแค่ไหนไม่รู้ แต่มันไม่มีทางลัดครับ”
หมอหนึ่งคือตัวจริงในเรื่อง Work – life Balance โดยการลงมือทำจริง ตั้งแต่สวมหมวก CEO ลงไปถึงระดับปฏิบัติการ นอกจากได้งาน ได้สุขภาพใจและสุขภาพกาย การกระชับสัดส่วน คล่องตัว แข็งแรงอย่างเป็นรูปธรรม จากชีวิตต้นแบบซึ่งตอกย้ำความยั่งยืนในการใช้ชีวิตปัจจุบันอย่างดีงาม