ห้างเซ็นทรัลชิดลม จัดงบ 4 พันล้านบาทปรับโฉมครั้งใหญ่ สู่การเป็นห้างสรรพสินค้าลักชัวรี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Store of Bangkok” พร้อมเปิดโซนลักชัวรี บิวตี้และแฟชั่นเมษายนนี้

เดินหน้าสู่การเป็นห้างสรรพสินค้าลักชัวรีที่มุ่งมอบประสบการณ์ช้อปแบบ “One-Stop-Shopping”…ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ลงทุนครั้งใหญ่ 4 พันล้านบาท พลิกโฉมห้างเซ็นทรัลชิดลมภายใต้คอนเซปต์ The Store of Bangkok” สู่การเป็นห้างสรรพสินค้าลักชัวรี มอบประสบการณ์ช้อปแบบ “One-Stop-Shopping” ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับสินค้าหลากหลายแบรนด์ในทุกหมวดหมู่ได้ครบในที่เดียว เหนือระดับด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของการออกแบบและสถาปัตยกรรมระดับเวิลด์คลาส แบรนด์ลักชัวรีระดับโลกและบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟเหนือระดับ รวมถึงการเป็นจุดหมายแห่งแรงบันดาลใจสำหรับทุกคน เพื่อก้าวสู่นิยามใหม่ของห้างสรรพสินค้าลักชัวรีตัวจริง ใจกลางกรุงเทพฯ

ณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ห้างเซ็นทรัลชิดลม มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เพราะเป็นห้างแฟลกชิปของเรามาตั้งแต่ปี 2517 โดยไม่เพียงมีทำเลเชิงกลยุทธ์ใจกลางเมืองที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นห้างสรรพสินค้าในรูปแบบ “One-Stop-Shopping” แห่งแรกของประเทศไทย ที่มีพัฒนาการผ่านยุคสมัยและอยู่คู่กับลูกค้าและวงการค้าปลีกไทยมากว่า 5 ทศวรรษ วันนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม จะก้าวขึ้นสู่การเป็นห้างสรรพสินค้าลักชัวรีด้วยการออกแบบและรังสรรค์พื้นที่ที่มุ่งมอบประสบการณ์ใหม่ แบรนด์และสินค้าที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน การบริการที่ได้รับการยกระดับสู่ระดับเวิลด์คลาส วันนี้เราไม่ได้มองห้างเซ็นทรัลชิดลม ในฐานะห้างสรรพสินค้าเท่านั้น แต่ที่นี่คือ The Store of Bangkok เดสติเนชั่นของการช้อปปิ้งของกรุงเทพฯ ในใจลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ”

นิยามใหม่ของห้างเซ็นทรัลชิดลม The Store of Bangkok”  สะท้อนมาจากวิสัยทัศน์ของกลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลในการเป็น “แรงบันดาลใจในทุกช่วงเวลาของชีวิต” (The Store of Endless Inspiration for Every Moment of Your Life) ผสานกับ 3 แนวคิดหลักในการปรับโฉมห้างเซ็นทรัลชิดลม เพื่อมุ่งสู่การเป็นห้างสรรพสินค้าลักชัวรีอย่างแท้จริง ซึ่งได้แก่

 The Store of Design and Concept การออกแบบและงานสถาปัตยกรรมโดยบริษัทสถาปนิกชั้นนำของไทยพร้อมบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก ผสานไอเดียสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่มีความร่วมสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยและเปี่ยมด้วยรายละเอียดและมาตรฐานในระดับสากล และเลือกใช้วัสดุที่ผลิตในประเทศไทยในการโดยมีการปรับโฉมเพื่อยกระดับห้างเซ็นทรัลชิดลมในหลากหลายมิติ ได้แก่

ยกระดับประสบการณ์: ขยายพื้นที่ส่วนกลางของห้างให้กว้างขวาง โอ่อ่าขึ้นเพื่อมอบบรรยากาศหรูหราและผ่อนคลาย และมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งในรูปแบบเดสติเนชั่นของสินค้าในทุกหมวดหมู่ ที่ตรงใจและตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์

ยกระดับสถาปัตยกรรม: ออกแบบ Façade ด้านนอกอาคาร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของห้างเซ็นทรัลชิดลมให้มีความทันสมัยมากขึ้น เลือกใช้กระจกสีขาวขุ่น ซึ่งสามารถเรืองแสง และเปลี่ยนสีได้ในเวลากลางคืน โดยห้างเซ็นทรัลชิดลมจะเป็นห้างสรรพสินค้าที่สว่าง สดใส มีชีวิตชีวา และเป็น Iconic landmark แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร

ยกระดับการเข้าถึง: เพิ่มทางเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้า (Sky Bridge) ที่ชั้น 1 ซึ่งเชื่อมเข้าสู่ชั้นลักชัวรีโดยตรง พร้อมขยายทางเชื่อมรถไฟฟ้าเดิมที่ชั้น 2 เพื่อให้ลูกค้าเดินทางเข้าสู่ห้างเซ็นทรัลชิดลมได้สะดวกสบายมากขึ้น

The Store of Curated Destinations ความพิเศษของห้างเซ็นทรัลชิดลมคือการเป็นเดสติเนชั่นที่รวบรวมหลากหลายแบรนด์ไว้ในที่เดียว มีการคัดสรรแบรนด์สินค้าอย่างพิถีพิถัน พร้อมจัดหมวดหมู่สินค้าโดยคำนึงถึงระดับราคาและจุดยืนของแบรนด์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างเหนือระดับ และตอบโจทย์ลูกค้าของห้างเซ็นทรัลชิดลม ไม่ว่าจะเป็น

World of Luxury: มอบประสบการณ์ช้อปแบบเวิลด์คลาสลักชัวรีกับ

  • Luxe Galerie ที่อัดแน่นด้วยบูทีคของแบรนด์ชั้นสูงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Balenciaga, Bottega Veneta, Burberry, Celine, Chanel, Dolce & Gabbana, Emilio Pucci, Fendi, Gucci, Kenzo, Loewe, Louis Vuitton, Missoni, Miu Miu, Prada, Roger Vivier, Saint Laurent และ Versace พร้อมด้วย
  • Shoes Avenue พื้นที่สำหรับคอลเลกชันรองเท้าแบรนด์หรูที่สามารถเลือก และลองรองเท้าจากแบรนด์ลักชัวรี ได้หลากหลายแบรนด์ ครบทุกสไตล์ในพื้นที่เดียว Bottega Veneta, Burberry, Christian Louboutin, Coperni, Cult Gaia, Dolce & Gabbana, GCDS, Gucci, Isabel Marant, Jimmy Choo, Marni, Prada, Proenza Schouler, Roger Vivier, Sergio Rossi, Sophia Webster, Tod’s, Tom Ford, Tory Burch, และ Vivienne Westwood โดยจะมีแบรนด์ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Giuseppe Zanotti, Mach & Mach, Rene Caovilla, The Attico เป็นต้น

World of Beauty: Beauty Galerie (บิวตี้ แกลเลอรี) โฉมใหม่ที่หรูหราและที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 6,000 ตร.ม. ครบครันด้วยผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ความงามระดับโลกกว่า 150 แบรนด์ พร้อมด้วยบูทีคจากบิวตี้แบรนด์ระดับโลก อาทิ Chanel, Dior, La Mer และ Gucci ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์พิเศษเพื่อมอบประสบการณ์ด้านความงามอย่างที่เหนือระดับ และมีแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม เช่น Augustinus Bader และ Officine Universelle Buly นอกจากนี้ยังมีพื้นที่พิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ความงามออร์แกนิก รวมถึงผลิตภัณฑ์ความงามเฉพาะกลุ่ม (Niche Beauty) เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกชมและเลือกช้อปผลิตภัณฑ์ที่ตรงความต้องการได้อย่างง่ายดาย

World of Youth: เดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยสร้างสรรค์เดสติเนชั่นที่รวบรวมสินค้าแฟชั่นและสตรีทแฟชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยห้างเซ็นทรัลชิดลมเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกและแห่งเดียวที่มี Sneaker Boulevard พื้นที่รวมรองเท้าสนีกเกอร์กว่า 800 คู่ ทั้งคอลเลคชันล่าสุด รุ่นพิเศษ รุ่นหายากจากหลากหลายแบรนด์ดังเพื่อคนรักสนีกเกอร์โดยเฉพาะ

Best Curated Food Destination: คัดสรรร้านอาหารและคาเฟ่ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์และทุกเจเนอเรชัน โดยมีร้านอาหารและคาเฟ่มากขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า รวมกว่า 60 ร้าน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ไม่ได้ต้องการมาห้างเพื่อช้อปปิ้งเท่านั้น แต่มาแฮงค์เอาท์ใช้เวลาร่วมกับคนที่รัก ทำให้ห้างเซ็นทรัลชิดลมเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง และเป็นเดสติเนชันที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น

Best-in-Class Service การบริการที่มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น เช่น การยกระดับห้องรับรองใหม่ ผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว และบริการที่จอดรถแบบดิจิทัล

The Store of Communities ห้างเซ็นทรัลชิดลม ยังมุ่งเป็นจุดหมายแห่งแรงบันดาลใจ เพื่อสร้างคอมมิวนิตี้ที่แข็งแกร่ง โดยครอบคลุมถึง การให้ความสำคัญกับลูกค้า โดยลูกค้าของห้างเซ็นทรัล ชิดลมแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักด้วยกัน คือ (1) กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อตั้งแต่กลางถึงสูง ชื่นชอบสินค้าที่มีความเฉพาะและผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี (2) กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและพลังในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ชื่นชอบในแฟชั่น ผลงานศิลปะ และการใช้นวัตกรรมสมัยใหม่ และ (3) กลุ่มนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย

เปิดตัว CENFINITY เพื่อยกระดับรอยัลตี โปรแกรมสำหรับ Top Customers ของห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และเป็นกลุ่ม Top Customers ของสมาชิกเดอะวัน (The1) ซึ่งในปีที่ผ่านมา โดยออกแบบให้เป็นโปรแกรมที่มีความเฉพาะเจาะจงและเฉพาะบุคคลมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และตรงใจลูกค้าคนสำคัญของห้างฯ มากที่สุด

สร้าง Identity ใหม่ให้กับห้างเซ็นทรัลชิดลม ทั้งโลโก้ (ตราสัญลักษณ์), ฟอนต์ (ตัวอักษร) โดยได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์ใหม่ของห้างเซ็นทรัลชิดลม และพิเศษสุดกับการออกแบบสีใหม่ Central Chidlom Rose Pink” หรือสีชมพูเซ็นทรัลชิดลมที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์อีเว้นท์ของห้าง โดยสีใหม่นี้จะใช้เฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลชิดลมสาขาเดียวเท่านั้น ภาพลักษณ์ใหม่นี้ให้ความรู้สึกสดใหม่ เปี่ยมด้วยพลัง มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังคงเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นมิตร และสร้างความแตกต่างและโดดเด่นให้กับห้างเซ็นทรัลชิดลมจากห้างเซ็นทรัลสาขาอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง

ปักหมุดเป็นจุดหมายแห่งแรงบันดาลใจของคอมมิวนิตี้ ที่นำเสนองานอีเวนต์สุดสร้างสรรค์ในหลากหลายมิติ ทั้งศิลปะ ดนตรี อาหาร รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรในไทยและระดับโลก เพื่อสร้างสีสันและดึงทราฟฟิคตลอดทั้งปี นอกจากนี้ทางห้างเซ็นทรัลยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจความยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อมในหลายด้าน ผ่านการลดการใช้ถุงพลาสติก การรณรงค์ใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการตกแต่งห้าง เป็นต้น

ห้างเซ็นทรัลชิดลมพร้อมเผยโฉมภาพลักษณ์ใหม่ภายใต้คอนเซปต์ The Store of Bangkok” ต้อนรับลูกค้าชาวไทยและต่างชาติจากทั่วโลกกับโซนลักชัวรี บิวตี้และแฟชั่นในเดือนเมษายนนี้ และเตรียมพบกับห้างเซ็นทรัลชิดลมโฉมใหม่เต็มรูปแบบในเดือนธันวาคมของปีนี้ นอกเหนือจากการรีโนเวทห้างเซ็นทรัลชิดลมครั้งใหญ่นี้ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลยังมีแผนที่จะทยอยรีโนเวทหลายสาขาทั่วประเทศให้สอดรับกับแผนธุรกิจของห้างเซ็นทรัลภายในปีนี้ด้วยเช่นกัน

สำหรับยอดการใช้จ่ายจากกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมและกลุ่มคนรุ่นใหม่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าว่าในปี 2568 หลังจากที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม โฉมใหม่ได้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว จะมีจำนวนทราฟฟิกของลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 20% และมียอดขายเติบโตขึ้น 30%

“ห้างเซ็นทรัลชิดลม มีการพัฒนาและก้าวตามการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยครั้งนี้มีความพิเศษยิ่งกว่า เพราะไม่เพียงเป็นการรีโนเวทเพื่อปรับภาพลักษณ์ที่ลูกค้าเห็นเท่านั้น แต่เรากำลังเดินหน้าสู่การเป็น The Store of Bangkok ห้างสรรพสินค้าลักชัวรีที่มอบประสบการณ์ช้อปแบบ “One-Stop-Shopping” ในระดับเวิลด์คลาส และเป็นห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งในใจของลูกค้าคนสำคัญของเราตลอดไป” คุณณัฐธีรา กล่าวสรุป